ฟันผุ
ฟันผุ คือ โรคในช่องปากชนิดหนึ่งที่พบบ่อย นับเป็นปัญหาภายในช่องปากที่เรื้อรังที่เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แถมยังไม่ค่อยแสดงอาการจนกว่าจะอ้าปากเห็นว่ามีอาการฟันผุเกิดขึ้นเอง หรือพอมีอาการแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะละเลยไม่ไปหาหมอฟัน เพราะไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดในทันทีที่เห็นอาการ โรคนี้จึงเกิดการลุกลามได้ง่าย หากปล่อยไว้ไม่รักษา ฟันผุจะทำลายฟันและอาจทำลายเส้นประสาทที่ไวต่อความรู้สึก ทำให้เกิดการติดเชื้อไปถึงปลายรากฟันได้อีกด้วย
ภาพโดย Sammy-Sander จาก Pixabay
สาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุ
- การรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล
- แบคทีเรียที่เกาะบนผิวฟัน
- ระยะเวลาที่เกิดกรดในช่องปาก
- การสูญเสียแร่ธาตุจากสภาวะกรดในช่องปาก
อาการฟันผุเป็นอย่างไร
ฟันผุอาจเกิดขึ้นกับฟันครั้งละหนึ่งซี่หรือมากกว่านั้น โดยมีอาการที่พบบ่อย ได้แก่
- มีอาการเสียวฟันมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีรสหวาน ร้อนจัด หรือเย็นจัด
- มีอาการปวดฟัน
- มีเศษอาหารติดบริเวณซอกฟันบ่อยขึ้น
- มีฟันแตกเป็นรู เป็นช่อง มีจุดสีดำที่ฟัน และถ้าปล่อยไว้ให้อาการลุกลามมากขึ้น ก็จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือฟันเป็นหนอง และต้องถอนฟันทิ้งในที่สุด
ฟันผุยังทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ อีกด้วย
โรคเบาหวาน เชื้อแบคทีเรียจากฟันผุ อาจทำให้ความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลลดลง ทำให้เป็นเบาหวานได้
โรคหัวใจ เชื้อแบคทีเรียกระจายไปตามหลอดเลือด เป็นผลให้เลือดไหลเวียนเข้าหัวใจได้น้อยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ
ปอดติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรียจะเข้าไปปนกับน้ำลายและไหลเข้าไปสู่ปอด อาจเกิดอาการปอดติดเชื้อได้
โรคหลอดเลือดสมองตีบ การสูญเสียฟันระยะสุดท้ายของโรคฟันและเหงือกสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองได้
โรคมะเร็งช่องปาก เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อบุช่องปาก เมื่อการระคายเคืองเกิดขึ้นซ้ำๆ หรือการอักเสบที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการรักษาจนเรื้อรัง ก็อาจส่งผลให้เนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้
โรคฟันผุนั้นอันตรายกว่าที่คิด การรักษาความสะอาดในช่องปากจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเมื่อมีอาการในช่องปากแล้วควรจะรีบรักษาเพื่อสุขภาพและอนามัยที่ดี หากคุณมีฟันผุ หรือมีอาการปวดฟัน เสียวฟัน ควรรีบมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
ที่มาข้อมูล : สสส.
