เลือก เคาน์เตอร์ครัว แบบไหน ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน

 “เคาน์เตอร์ครัว” ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของห้องครัว เพราะถือเป็นพื้นที่หลักในการประกอบอาหาร หรือเป็นพื้นที่ที่รวมฟังก์ชันต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานในห้องครัว ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวนั้นก็ให้เลือกหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น รูปตัวI ตัวL ตัวU หรือ แบบ Island เป็นต้น โดยแต่ละแบบก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน วันนี้ HomeTricks เคล็ดไม่ลับเรื่องบ้าน จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเคาน์เตอร์ครัวมากยิ่งขึ้นและแชร์เทคนิคเลือกเคาน์เตอร์ครัวแบบไหนให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งจะมีอะไรบ้างเราไปดูกัน

ประเภทของเคาน์เตอร์ครัว

1. เคาน์เตอร์ครัวสำเร็จแบบบิวท์อิน (Built-in)

   
   เคาน์เตอร์ครัวแบบบิวท์อิน คือ การติดตั้งตู้เคาน์เตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้วางให้เข้ากับพื้นที่ภายในห้องครัวแล้วยึดติดตายตัว โดยวัสดุที่นำมาใช้ทำเคาน์เตอร์ครัวบิวท์อินก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลามิเนต PVC ไม้ยางสังเคราะห์ หินสังเคราะห์ หินควอทซ์ หินอ่อน กระเบื้อง คอนกรีต Aluminium อะคริลิค Epoxy หรือ ไม้จริง (แต่จะไม่ใช้ทำเป็น Top เสี่ยงบวมได้ง่าย) ซึ่งวัสดุแต่ละแบบก็จะมีราคาที่แตกต่างกัน โดยเราสามารถเลือกได้ตามความชอบและงบประมาณ ซึ่งการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวแบบบิวท์อินจะมีข้อดี คือ ติดตั้งได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว มีแบบให้เลือกเยอะ แต่ข้อเสียของเคาน์เตอร์ครัวชนิดนี้ คือ ความแข็งแรงอาจไม่เท่าครัวแบบปูน ราคาค่อนข้างสูง หากติดตั้งแล้วต้องการถอดแก้ไขจะทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้นต้องออกแบบ วางตำแหน่งและวัดขนาดให้ดีก่อนซื้อหรือสั่งทำ

2. เคาน์เตอร์ครัวปูน
   

   เคาน์เตอร์ครัวปูน คือ การเคาน์เตอร์ที่ใช้ปูนมาหล่อแล้วนำมาประกอบ และยึดติดให้เป็นเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวชนิดนี้จะเหมาะกับการใช้งานกับครัวหนัก เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทานสูง รองรับน้ำหนักได้ดี ทั้งยังมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปแบบได้ตามความต้องการและมีราคาที่ไม่สูงมาก แต่เคาน์เตอร์ปูนจะมีข้อเสีย คือ เมื่อก่อสร้างไปแล้วจะปรับเปลี่ยนได้ยาก หากต้องการปรับเปลี่ยนต้องทำการทุบทิ้งอย่างเดียว ซึ่งต้องคอยระวังให้ไม่ไปกระทบต่อโครงสร้างผนังบ้าน

3. เคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูปแบบถอดประกอบได้

   
   เคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูปแบบถอดประกอบได้ คือ เคาน์เตอร์ครัวที่ถูกออกแบบมาแล้วมักพบวางขายอยู่ในร้านวัสดุก่อสร้างและร้านเฟอร์นิเจอร์ โดยวัสดุที่นำมาทำเคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูปก็มีให้เลือกหลากหลายคล้ายกับครัวแบบบิวท์อิน ซึ่งจะผู้ซื้อสามารถเลือกดูได้ตามความต้องการใช้งานได้เลย โดยเคาน์เตอร์ครัวประเภทนี้จะจะนิยมนำมาใช้ในคอนโด หรือ บ้านที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านน้อยและเหมาะกับการใช้งานที่ไม่หนัก (ครัวเบา) ข้อดีของเคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูป คือ ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนหรือย้ายตำแหน่งสามารถทำได้ง่าย มีแบบให้เลือกเยอะ แต่ข้อเสียจะเป็นเรื่องของการใช้งานที่มีความแข็งแรงน้อยกว่าครัวแบบอื่น ๆ มีอายุการใช้งานไม่นานนัก ต้องหมั่นดูแลรักษาเป็นพิเศษ และผู้ซื้อต้องเลือกซื้อตามแบบที่มีวางขายเท่านั้น ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้ตามที่ต้องการหรือไม่พอดีกับขนาดพื้นที่ห้องครัว

เทคนิคเลือกเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสมต่อการใช้งาน

1. พื้นที่ห้องครัว
   สิ่งแรกที่เราควรจะต้องทราบคือ ขนาดพื้นที่ในห้องครัว เพื่อที่จะได้ทราบว่าเราควรเลือกเคาน์เตอร์ครัวที่มีความกว้าง ความยาว และความสูงเท่าไหร่ ที่จะเข้ากับพื้นที่ในห้องครัวของเราได้อย่างพอดีและลงตัว
2. เลือกรูปแบบการจัดวางเคาน์เตอร์ครัว
   เมื่อเราทราบขนาดพื้นที่ห้องครัวเพื่อเลือกขนาดของเคาน์เตอร์ครัวได้แล้ว สิ่งต่อไปคือ การเลือกรูปแบบการจัดวางเคาน์เตอร์ครัว โดยการจัดวางห้องครัวมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ รูปตัว I ตัว L ตัว U และ แบบ Island ซึ่งเราจะต้องเลือกรูปแบบที่เหมาะกับพื้นที่ภายในห้องครัวของเรา
3. เลือกประเภทของเคาน์เตอร์ห้องครัวให้เหมาะสม
   คุณจะต้องทราบว่าคุณว่าคุณจะใช้เคาน์เตอร์ครัวไปใช้งานครัวอะไร ซึ่งประเภทของเคาน์เตอร์ครัวก็จะมีเคาน์เตอร์ครัวสำเร็จรูป , เคาน์เตอร์ครัวบิลต์อิน (Build in) และเคาน์เตอร์ครัวปูน ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน เราจะต้องทราบว่าเราจะใช้งานแบบไหน ครัวเบา ครัวกลาง หรือ ครัวหนัก

เลือกวัสดุเคาน์เตอร์ครัว

เมื่อเลือกชนิดของเคาน์เตอร์ครัวและประเภทของเคาน์เตอร์ครัวแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกวัสดุเคาน์เตอร์ครัว โดยวัสดุที่นิยมนำมาประกอบเป็นเคาน์เตอร์ครัวก็จะมีดังนี้ เคาน์เตอร์ปูน , เคาน์เตอร์ไม้ , เคาน์เตอร์สแตนเลส , เคาน์เตอร์ห้องครัวหินอ่อน และ เคาน์เตอร์ลามิเนต ซึ่งแต่ละวัสดุก็มีความการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. เคาน์เตอร์ปูน
   เป็นเคาน์เตอร์ทำมาจากปูนหรือคอนกรีต ส่วนใหญ่เป็นครัวแบบก่ออิฐแล้วยึดติดกับพื้นที่ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการใช้งานครัวหนัก
2. เคาน์เตอร์ไม้
   เคาน์เตอร์ไม้มีให้เลือกทั้งไม้จริง ไม้สังเคราะห์ และไม้อัด โดยเคาน์เตอร์ชนิดนี้จะไม่ทนต่อความชื้น แต่มีข้อดี คือ มีความสวยงาม ซึ่งถ้าหากใช้เคาน์เตอร์ไม้แนะนำให้เลือกท็อปครัวให้ดี
3. เคาน์เตอร์สแตนเลส
   เคาน์เตอร์สแตนเลส เป็นเคาน์เตอร์ครัวที่มีความแข็งแรง ทนทานสูง ไม่เป็นสนิม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน สามารถกันน้ำ ทนความร้อนและกรดต่าง ๆ ได้ดี เหมาะสำหรับงานครัวหนัก ดูแลรักษาง่าย แต่ข้อเสียคือ มีราคาที่สูงมาก
4. เคาน์เตอร์ห้องครัวหินอ่อน
   เคาน์เตอร์ห้องครัวหินอ่อน เป็นเคาน์เตอร์ครัวที่มีความสวยงาม หรูหรา เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเคาน์เตอร์ห้องครัวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ดูดีมีระดับ แต่ข้อเสียคือ มีราคาแพงและเป็นรอยขูดขีดง่าย
5. เคาน์เตอร์ลามิเนต
   เคาน์เตอร์ลามิเนต เป็นเคาน์เตอร์ที่มีราคาไม่สูงมาก สามารถใช้งานได้หลากหลาย แต่อาจจะไม่เหมาะกับงานครัวหนัก เพราะลามิเนตสามารถเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย

การเลือกท็อปเคาน์เตอร์ครัว

เมื่อเลือกเคาน์เตอร์ครัวแล้วสิ่งที่สำคัญ คือ การเลือกท็อปเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสม เพราะท็อปครัวจะเป็นผิวหน้าที่ใช้รับน้ำหนักทุกอย่างของการทำครัว หากเลือกท็อปครัวไม่เหมาะสมต่อการใช้งานอาจจะทำให้ต้องเปลี่ยนท็อปใหม่ โดยท็อปที่นิยมใช้งานก็จะมี ดังนี้

• หินสังเคราะห์
  ท็อปหินสังเคราะห์ นิยมใช้แทนหินแท้และหินอ่อนเพราะมีราคาถูกกว่าทนกรด ทนด่าง ทนสารเคมี ทนร้อน ทนความชื้นมากกว่าหินอ่อน เหมาะกับงานครัวกลางและครัวหนัก
• หินอ่อน
  ท็อปหินอ่อน เหมาะแก่การใช้งานครัวเบา นิยมนำมาตั้งเป็นครัวในบ้าน ที่เน้นความสวยงาม
• หินแกรนิต
  ท็อปหินแกรนิต เป็นท็อปที่มีลวดลายสวยงาม ทนความร้อนได้ดี แต่ไม่ค่อยทนต่อความชื้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการตั้งเคาน์เตอร์ท็อปหินแกรนิตใกล้กับอ่างล้างจาน เมื่อทำความสะอาดแล้วต้องเช็ดให้แห้ง
• หินควอทซ์
  ท็อปหินควอทซ์ เป็นท็อปหินอีกชนิดที่กำลังได้รับความนิยมนำไปทำท็อปเคาน์เตอร์ห้องครัวสูง เพราะว่ามีลวดลายสวยงาม ทนความชื้น ทำความสะอาดได้ง่าย เสริมความหรูหราให้แก่ห้องครัว

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคเลือก เคาน์เตอร์ครัว แบบไหน ให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ที่ HomeTricks เคล็ดไม่ลับเรื่องบ้าน นำมาแชร์ให้ทุกคน สำหรับใครที่มีแพลนจะแต่งห้องครัว ก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ ทั้งนี้หากใครที่อยากหาเทคนิคเกี่ยวกับห้องครัวเพิ่มเติม เช่น ประเภทห้องครัว ก็สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ และถ้าหากอยากหาไอเดียแต่งบ้าน หรือ เคล็ดลับเรื่องบ้าน อย่างไรนั้นก็อย่าลืมติดตามไอเดียแต่งบ้านและเทคนิคเกี่ยวกับบ้านได้ HomeTricks เคล็ดไม่ลับเรื่องบ้าน
ขอบคุณที่มา https://hometricks.co/