สมดุลหยินหยาง รักษาโรค

สมดุลหยินหยาง เป็นทฤษีที่อธิบายว่า การเกิด การพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งทั้งมวลนั้น เกิดจากบทบาทขอพลังตรงบข้ามที่มีต่อกันสองสิ่ง คือ หยิน-หยาง ที่ดำรงอยู่ในโลกธรรมชาติทุกแห่ง

ในร่างกายคนเรา ผู้ชายเป็นหยาง ผู้หญิงเป็นหยิน ร่างกายส่วนบนเป็นหยาง ส่วนล่างเป็นหยิน อวัยวะกลวงเป็นหยาง อวัยวะตันเป็นหยิน ในอวัยวะทั้ง 5 ตับและหัวใจเป็นหยาง ปอด ม้าม ไต เป็นหยิน ในระบบเส้นลมปราณ เส้นหลัก 12 เส้น แบ่งเป็น หยินมือ 3 หยางมือ 3 หยินเท้า 3 หยางเท้า 3 การเกิด การพัฒนา และกระบวนการของโรค เป็นการต่อสู้ระหว่างพิษภัยจากภายนอกกับภูมิต้านทานของร่างกายแล้ว สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การเสียสมดุลของหยิน-หยาง ทำให้เกิดภาวะหยินหรือหยางมากเกินไป เรียกว่า “แกร่ง” และภาวะที่หยินหรือหยางน้อยไป เรียกว่า “พร่อง”

  • จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีหยินมากหรือน้อยเกินไป หากมีหยินมากเกินไปจะเกิดหนาว ปวดท้อง นอนขด ชีพจรคลำไม่ค่อยเจอ ตัวเย็น หนาวสั่น มือเท้าเย็น หากมีหยินน้อยเกินไป จะเกิดกับผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงอายุ เหงื่อออกกลางคืน อุ้งมือ-เท้าร้อน ปากคอลิ้นแห้ง
  • จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีหยางมากหรือน้อยเกินไป หากมีหยางมากเกินไป จะมีไข้สูง เหงื่อออก กระหายน้ำ ท้องงผู หน้าแดง ขี้ร้อน หากมีหยางน้อยเกินไป มีอาการหนาว หน้าซีดขาว มือเท้าเย็น อ่อนล้า เหงื่อออกง่าย

หากเรานำ สมดุลหยินหยาง มาใช้กับการดำรงชีวิตเพื่อปรับสมดุลให้แก่ร่างกาย เมื่อเกิดความสมดุล ร่างกายก็แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่ดีไว้ค่อยปกป้องโรคภัยไข้เจ็บ คนที่ไม่สบายนั้นก็คือคนที่เสียสมดุลหยิน-หยางนั้นเองคะ.

การปรับสมดุลหยินหยางในร่างกายอย่างง่ายๆ เริ่มจากอาหารการกิน เราควรสังเกตสภาพร่างกายของตัวเองว่าเป็นหยินหรือหยาง แล้วรับประทานอาหารที่ตรงข้ามกับสภาพร่างกาย เพื่อให้เกิดสมดุล เช่น หากร่างกายเราหยินน้อยหรือมีสารที่เป็นน้ำน้อย คนๆนั้นก็จะมีอาการร้อนใน ปากแห้ง คอแห้ง ผิวแห้ง ฝ่ามือ-เท้าร้อน เราก็แก้ด้วยการเติมหยินเข้าสู่ร่างกาย โดยการรับประทานผัก ผลไม้ที่มีน้ำเยอะๆ งดอาหารรสเผ็ด การรับประทานอาหารให้เกิดสมดุลหยิน-หยาง นั้น ควรรับประทานธัญพืช ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี รับประทานผักผลไม้ตามฤดูกาลและตามท้องถิ่น หลีกเลี่ยงอาหารที่ใส่สารเคมีและผ่านการแปรรูป เช่น สีปรุงแต่ง สารกันบูด ซึ่งเป็นอาหารที่เป็นหยิน

นอกจากนี้การปรับสมดุลอุณหภูมิด้วยอาหาร ก็ควรเลือกอาหารที่เข้ากัน เพื่อให้ระบบต่างๆในร่างกายทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ตั้งอยู่บนฐานความเชื่อที่ว่า “อาหารแต่ละชนิดจะมีกระบวนการย่อย ดูดซึม เผาผลาญ และขับออกจากร่างกายที่ต่างกัน” เช่น ไม่ควรทานแป้งพร้อมกับอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะน้ำตาลจะไปขวางไม่ให้แป้งย่อยได้ง่าย แต่ควรเลือกทานคู่กับเนย เนยถั่ว หรือชีส

ไม่เพียงแต่อาหารเท่านั้นที่มีผลต่อสมดุลของหยินหยางของคนเราคะ แต่การใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรจะถูกต้องด้วย เช่น การอาบน้ำอุ่นเล็กน้อยหรือดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆในตอนเช้าหลังจากตี่นนอน เพื่อปรับร่างกายที่เป็นหยินตอนนอนให้กลับมาเกิดสมดุลมากขึ้น ควรนอนประมาณ 3 ทุ่ม และตื่นตี 4-5 จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมาได้อย่างเต็มที และตื่นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใส การควบคุมอารมณ์ไม่ให้โกรธง่ายหรืออ่อนไหวง่ายจนเกินไป ปรับทัศนคติไปในเชิงบวกหรือมองในแง่ของความเป็นจริง หมั่นออกกำลังสม่ำเสมอ เป็นต้น

หากใครต้องการมีร่างกายที่สมบูรณ์ก็ให้ปฏิบัติตามหลักหยิน-หยาง โดยการควบคุมสมดุลของหยิน-หยางในทุกๆด้าน ไม่ให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไป จริงแล้วหลักการนี้ก็คือการสร้างความพอดี ไม่ทำอะไรมากเกินไป ไม่ทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งบ่อยเกินไป เมื่อร่างกายสมดุลโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่สามารถทำร้ายเราได้คะ

You may also like...

error: Content is protected !!